โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสัญญาณการกลับมาอีกครั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ ชัดเจนขึ้นอย่างต่อเนื่องในยุโรป การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางของสงครามยูเครนครั้งใหญ่ นี่จึงทำชาติพันธมิตรยุโรปหันมาพยายามยกระดับความช่วยเหลือต่อยูเครน รายล่าสุดที่เสนอแผนช่วยเหลือยูเครนออกมาคือ นาโต
เมื่อวันที่ 3 เม.ย. รัฐมนตรีการต่างประเทศของ 32 ชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่สำนักงานใหญ่ ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมวาระการหารือของการประชุมในวันแรกก็คือ การตกลงหาแผนและกรอบการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามต้านทานรัสเซียในระยะยาว
ในระหว่างการแถลงข่าว เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตระบุว่า แนวทางการสนับสนุนยูเครนควรลดความช่วยเหลือระยะสั้นที่มอบตามความสมัครใจ และควรเพิ่มความช่วยเหลือระยะยาวที่มีพันธกรณีผูกผัน มีโครงสร้างชัดเจน และคาดการณ์ได้ให้มากขึ้น
แผนที่เลขาธิการนาโตเสนอต่อที่ประชุมคือ การมอบงบความช่วยเหลือด้านอาวุธมูลค่า 1 แสน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นระยะเวลา 5 ปีให้แก่ยูเครน
นี่ถือเป็นจุดเปลี่ยน เนื่องจากที่ผ่านมาความช่วยเหลือทางการทหารที่นาโตมอบให้ยูเครนส่วนมากไม่ใช่ lethal aid หรืออาวุธ กระสุน และอุปกรณ์ที่สร้างความเสียหายถึงชีวิตแก่ศัตรูได้ เนื่องจากเกรงว่าจะยกระดับความตึงเครียดและความเสี่ยงในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย แต่ในช่วงระยะหลังที่ผ่านมามุมมองของนาโตเริ่มเปลี่ยน โดยมองว่าต้องมอบความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครน ซึ่งต้องเป็นไปอย่างยั่นยืน
อีกประเด็นหนึ่งที่อยู่ในแผนของเลขาธิการนาโตตามการรายงานของสื่อตะวันตกที่อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของนาโตคือ ข้อเสนอที่จะให้นาโตมีบทบาทหลักใน Ukraine Defense Contact Group หรือที่รู้จักในชื่อ “กลุ่มแรมชไตน์”
แต่เดิม Ukraine Defense Contact Group เป็นความร่วมมือที่สหรัฐฯ ริเริ่มขึ้นในปี 2022 เพื่อประสานการส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ กระสุน และอุปกรณ์ทางทหารต่างๆ ที่ชาติพันธมิตร 56 ชาติในกลุ่มมอบให้แก่ยูเครน รวมถึงจัดการฝึกให้แก่ทหารยูเครน โดยข้อเสนอของเลขาธิการนาโตจะทำให้ชาติพันธมิตรยุโรปมีบทบาทตรงในการจัดสรรอาวุธให้แก่ยูเครนมากขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
อย่างไรก็ดี แผนที่เลขาธิการนาโตเสนอและหารือกับที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศยังไม่ใช่ร่างสุดท้ายและยังมีประเด็นที่ต้องหารือต่อ เช่น จะจัดหาเงินงบประมาณอย่างไร ชาติสมาชิกจะตัดสินใจเกี่ยวกับแผนที่เลขาธิการนาโตเสนออีกครั้งในการประชุมสุดยอดนาโตที่กรุงวอชิงตัน ดีซีของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้
แผนจัดงบสนับสนุนยูเครนระยะยาวของนาโต เกิดขึ้นในวันที่ชาติพันธมิตรในยุโรปพยายามระดมสมองและยกระดับการสนับสนุนยูเครน เพื่อหาทางทดแทนบทบาทของสมาชิกรายใหญ่อย่างสหรัฐฯ ที่อาจเปลี่ยนนโยบายต่อยูเครนและนาโต หากโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในปลายปีนี้
ความกังวลของชาตินาโตในยุโรปต่อสหรัฐฯ เกิดขึ้นในวันที่องค์กรประกันความมั่นคงแห่งนี้มีอายุครบ 75 ปี และกำลังทวีความสำคัญอย่างยิ่งในสงครามยูเครน
วันที่ 4 เม.ย. ปี 1949 หรือวันนี้เมื่อ 75 ปีที่แล้ว เป็นวันที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ แรกเริ่มนาโตมีสมาชิก 12 ประเทศ จุดประสงค์คือ เพื่อสร้างพันธมิตรทางการทหารระหว่างสหรัฐฯ ชาติยุโรปตะวันตก และป้องปรามการขยายตัวของสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็น
หัวใจสำคัญของนาโตอยู่ที่ระบบประกันความมั่นคงร่วมหรือ collective defense ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้มาตราที่ 5 ของกฎบัตรนาโต ที่ระบุว่า หากประเทศสมาชิกนาโตประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี ประเทศสมาชิกที่เหลือมีพันธะหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันปกป้องและป้องกันประเทศสมาชิกที่ถูกโจมตี
อย่างไรก็ตาม ก่อนรัสเซียเปิดฉากทำสงครามรุกรานยูเครนในปี 2022 มีข้อวิพากษ์วิจารณ์นาโตว่า ระบบพันธมิตรทางการทหารของนาโตเป็นสิ่งที่ไม่ได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ความมั่นคงโลกหลังสงครามเย็นที่เปลี่ยนไปจากในอดีต
จนกระทั่งในปี 2022 หลังรัสเซียเปิดฉากสงครามบุกยูเครน นาโตก็กลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง เนื่องจากชาติยุโรปเชื่อว่าระบบประกันความมั่นคงของนาโตจะสามารถป้องปรามการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
สมาชิกของนาโตขยับขยายไปเป็น 32 ประเทศ ประเทศสมาชิกล่าสุดคือสวีเดน โดยเพิ่งเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ถือเป็นชาติมหาอำนาจที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อนาโต เนื่องจากมีขีดความสามารถทางการทหารสูง และมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนาโตและความมั่นคงในยุโรปมาตลอด บทบาทเหล่านี้ถูกตอกย้ำอย่างชัดเจนหลังรัสเซียเปิดฉากทำสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่มีสัญญาณว่าทรัมป์ มีโอกาสที่จะกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสมัยที่สอง คำถามที่ตามมาคือ อนาคตของนาโตจะเป็นอย่างไรต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสงครามยูเครนกลายเป็นสงครามยืดเยื้อไปแล้ว
เนื่องจากทรัมป์เคยแสดงท่าทีต่อต้านนาโตหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขู่ถอนตัวออกจากนาโต หรือขู่ว่าจะไม่ปกป้องชาติสมาชิกตามหลักป้องกันร่วมหากถูกรัสเซียโจมตี ในกรณีที่ชาติดังกล่าวไม่สามารถเพิ่มงบประมาณกลาโหมเป็นร้อยละ 2 ของ GDP ตามที่ชาติสมาชิกนาโตตกลงกันไว้ อีกทั้งทรัมป์ยังเป็นผู้นำที่คาดเดาท่าทีได้ยากและมีความไม่แน่นอนสูงคำพูดจาก เว็บพนันออน
ในประเด็นดังกล่าว คามิลล์ แกรนด์ นักวิจัยด้านนโยบายประจำ European Council on Foreign Relations ได้ให้ความเห็นว่าชาตินาโตในยุโรปจะต้องยกระดับความรับผิดชอบด้านการทหารและความมั่นคงมากขึ้น ไม่ว่าทรัมป์จะได้รับหรือไม่ได้รับเลือกตั้งก็ตาม
ข้อเสนอแผนงบประมาณช่วยเหลือยูเครนระยะยาวที่มีการพูดคุยไปเมื่อวาน จึงถูกมองว่าเป็นก้าวแรกเพื่อประกันความเสี่ยง ในกรณีที่ทรัมป์ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง
นอกเหนือจากนาโตที่เสนอแผนงบประมาณช่วยเหลือยูเครนในระยะยาวแล้ว ล่าสุดฟินแลนด์คือพันธมิตรอีกรายหนึ่งที่ลงนามข้อตกลงด้านความมั่นคงแบบทวิภาคีกับยูเครน
อเล็กซานเดอร์ สตุบบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ได้เดินทางไปเยือนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ที่กรุงเคียฟจุดประสงค์คือ เพื่อลงนามในข้อตกลงความมั่นคงร่วมกับยูเครน
ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมการสนับสนุนการป้องกันของยูเครนในระยะยาว รวมถึงการปฏิรูปในด้านต่างๆ และการฟื้นฟูประเทศหลังสงคราม โดยมีกรอบระยะเวลา 10 ปี นอกจากนี้ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ยังเปิดเผยด้วยว่า จะส่งมอบความช่วยเหลือทางการทหารมูลค่า 203 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ยูเครนอีกระลอก ซึ่งประกอบไปด้วยจรวดยิงสกัดสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศและกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งยูเครนกำลังต้องการอย่างมาก ฟินแลนด์ถือเป็นชาติที่แปดแล้วที่ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงระยะยาวกับยูเครน
นอกเหนือจากการส่งความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครน อีกแนวทางหนึ่งที่ชาติพันธมิตรในยุโรปหยิบยกขึ้นมาถกเถียงถึงความเป็นไปได้คือ การส่งทหารเข้าไปช่วยในยูเครน
ฝรั่งเศสคือชาติที่แสดงท่าทีชัดเจนว่า จะไม่ตัดความเป็นไปได้ในการส่งทหาร ขณะที่ชาติยุโรปอื่นๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากเกรงว่าจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรงและทำให้สงครามขยายวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อชาติยุโรปเกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกนาโต
สำนักข่าว AP รายงานว่าเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียได้โทรศัพท์ไปหาเซบาสเตียน เลคอร์นู รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสโดยตรง
โดยได้เตือนฝรั่งเศสว่า ห้ามส่งทหารฝรั่งเศสเข้าไปช่วยเหลือยูเครน เพราะแนวทางเช่นนี้จะสร้างปัญหาให้แก่ฝรั่งเศสเอง โดยที่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมนี่ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก และนับเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียและฝรั่งเศสพูดคุยกันโดยตรงในรอบกว่า 2 ปี
และแม้ว่าข้อเสนอการส่งทหารเข้าไปช่วยรบในยูเครนของฝรั่งเศสยังเป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น รวมถึงยังไม่มีสัญญาณว่าจะดำเนินการตามแผนจริง แต่ล่าสุด ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง เปิดเผยว่ารัสเซียอาจมุ่งเป้าไปที่งานกีฬาโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสกำลังจะเป็นเจ้าภาพในช่วงกลางปีนี้
ขณะเดียวกัน รัสเซียยังคงมุ่งหน้าโจมตียูเครนทางอากาศอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงที่ผ่านมาระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเริ่มอ่อนกำลังลงจนประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง
การโจมตีทางอากาศครั้งล่าสุดเกิดขึ้นวันนี้ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา พื้นที่ที่ถูกโจมตีคือเมืองคาร์คีฟทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน
นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คีฟ ระบุว่า รัสเซียส่งโดรนเข้ามาโจมตีทั้งหมด 15 ลำในการโจมตีระลอกนี้ ส่งผลให้เกิดไฟไหม้และทำให้อะพาร์ตเมนต์ บ้านเรือน และร้านค้าส่วนหนึ่งในเมืองเสียหายล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้อย่างน้อย 5 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บอยู่ที่อย่างน้อย 12 คน ตลอดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธและส่งโดรนเข้ามาโจมตียูเครนร่วมหลายร้อย นี่จึงทำให้ประธานาธิบดียูเครนและรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนออกมาเรียกร้อง และเร่งให้ชาติพันธมิตรตะวันตกส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศและจรวดยิงสกัดให้แก่ยูเครน