กรณี นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหา คดีฆ่า ก้อย โดยผู้ต้องหาถูกฝากขัง ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” นอกจากนั้นในการสอบสวนมีการขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเพื่อนในวงแชร์อีก 9 ราย จนในสังคมมีกระแสวิพากวิจารย์ถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาในกรณีเป็นฆ่าตกรต่อเนื่อง มีความเหี้ยมโหด ไร้สำนึกผิดชอบ
ซึ่งเรื่องนี้พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า จากวิเคราะห์ลักษณะพฤติกรรมของผู้ต้องหา เข้าข่ายเป็นกลุ่ม โรคไซโคพาธ (Psychopaths) คือ อาการขาดความสำนึกผิด โกหกหน้าไม่อาย หลอกตัวเอง ไร้ความเห็นใจผู้อื่น เพื่อหวังผลประโยชน์ส่วนตัว ขาดความสำนึกผิด ความรู้สึกด้านชาไม่เกรงกลัว ขาดความยับยั้งชั่งใจ และเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มของโรคบุคลิกภาพผิดปกติแบบต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorder)คำพูดจาก เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์
นักอาชญาฯ ชี้มีแผนปทุษกรรมเป็นขั้นตอน เทียบอาชญากรต่อเนื่อง ตปท.
“แต้ว”ลูกแชร์ “วงแชร์มรณะ” เปิดใจโชคยังดี รอดชีวิต-ได้เงินคืน
ต้องมีการพิจารณาประเมินหลายๆด้าน เพราะลักษณะเช่นนี้ในบางกรณีอาจเกิดขึ้นแบบผิวเผิน ที่เป็นการฆ่า เพื่อหวังทรัพย์สิน สิ่งของ แต่ในบางกรณีที่เป็นลักษณะการกระทำพฤติกรรมเดิมซ้ำๆรูปแบบเดิม และเหยื่อเป็นคนกลุ่มเดียวกัน พฤติกรรมของผู้ต้องหาอาจเกิดจากปม บางอย่างในจิตใจที่อาจเกิดจากการเลี้ยงดูหรือเหตุการณ์ ในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิต ต้องใช้การ ประเมินโดยจิตแพทย์ในการที่จะสรุป
จาก หลายกรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศที่พบการ ฆาตกรรมต่อเนื่อง แล้วการสืบสวนพบว่ากลุ่มของเหยื่อมีลักษณะคล้ายกันวิธีการของฆาตกรเป็นรูปแบบเดิม ที่เรียกว่ากลุ่ม Black window ในลักษณะของผู้ต้องหารายนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ต้องรอความชัดเจนของสอบสวนก่อนว่าการในแต่ละกรณีเป็นผู้ต้องหารายนี่จริงหรือไม่
พญ.อัมพร กล่าวเพิ่มว่า ในการติดตามหรือรับข้อมูลข่าวสารในกรณีลักษณะเช่นนี้ ขอแนะนำประชาชนควรพิจารณาวิเคราะห์ข้อมูลก่อน ไม่ควร ใช้ตนเองตัดสินเพราะมีความเสี่ยงที่ จะมีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์และอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงกับผู้ที่อยู่ในข่าว ผู้ต้องสงสัย,ผู้ต้องหา หรือญาติคนข้างเคียง ที่เกี่ยวข้อง จนเรากลายเป็นผู้ก่อเหตุเสียเอง